วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560
เนื้อหาที่ได้รับ
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
4. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา (Children with Speech and Language Disorders)เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด
หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (Articulator Disorders)
• เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง "แล้ว" เป็น "แล่ว"
2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech Flow Disorders)
3. ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
ความบกพร่องทางภาษา
หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)
2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่า
Dysphasia หรือ aphasia
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
• ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง
• ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
• ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ
• หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
• ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
• หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
• มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
• ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
5. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
(Children with Physical and Health Impairments)
โรคลมชัก (Epilepsy)1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
• อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที
• มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
• เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
• เด็กจะนั่งเฉย หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
• เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู
3.อาการชักแบบ Partial Complex
• มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
• เหม่อนิ่ง
• เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
• หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการนอนพัก
4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
• เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู (Grand Mal)
• เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
ซี.พี. (Cerebral Palsy)
1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
• spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
• spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
• spastic paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
• spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง (athetoid , ataxia)
• athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย
• ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3. กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy) แขนลีบ / ขาลีบ / เคลื่อนไหวช้ามากๆ
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic) เท้าปุก / อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
โปลิโอ (Poliomyelitis)
• มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
• ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม• มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
นอกเหนือจากนี้ยังมี
• โรคกระดูกอ่อน (Osteogenesis Imperfeta)
• โรคศีรษะโต
(Hydrocephalus)
• โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
(Rheumatoid arthritis)
• โรคระบบทางเดินหายใจ
• โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
• โรคหัวใจ (Cardiac Conditions)
• โรคมะเร็ง (Cancer)
• เลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia)
• แขนขาด้วนแต่กำเนิด
(Limb
Deficiency)
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
• มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
• ท่าเดินคล้ายกรรไกร
• เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
• ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ
• มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
• หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม
ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
• หกล้มบ่อย ๆ
• หิวและกระหายน้าอย่างเกินกว่าเหตุ
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
นำความรู้ที่ได้ไปใช้การในการเรียนต่อหรือต่อยอดความรู้เกี่ยวกับการศึกษาเด็กพิเศษประเภทนี้การประเมินผล
ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์นำภาพมาให้ดูทำให้เห็นภาพของโรคและอาการมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น