วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนครั้งที่ 4


วันศุกร์ที่  27  มกราคม  2560

เนื้อหาที่ได้รับ
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
            4. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา (Children with Speech and Language Disorders)
                 เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด  
                       หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
           1. วามบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (Articulator Disorders)
•   เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย "หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
•   เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง "แล้ว" เป็น "แล่ว"
           2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech Flow Disorders)
           3. ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
                 ความบกพร่องทางภาษา
                      หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
          1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)
          2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่า
Dysphasia หรือ aphasia
                 ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
           •   ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง 
           •   ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน 
           •   ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ 
           •   หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก 
           •   ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้ 
           •   หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา 
           •   มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก 
           •   ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
                                     5. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
 (Children with Physical and Health Impairments)
                 โรคลมชัก (Epilepsy)
      1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
            •  อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที
            •  มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
            •  เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
            •  เด็กจะนั่งเฉย หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
      2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
            •  เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู
      3.อาการชักแบบ Partial Complex
            •  มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
            •  เหม่อนิ่ง
            •  เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
            •  หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการนอนพัก 
       4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
            •  เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
       5.ลมบ้าหมู (Grand Mal)
           •  เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น 
                   ซี.พี(Cerebral Palsy)
       1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
          •  spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
          •  spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
          •  spastic paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
          •  spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
        2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง (athetoid , ataxia)
          •  athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมด้วย
          •  ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
        3. กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)
          กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy)  แขนลีบ / ขาลีบ / เคลื่อนไหวช้ามากๆ
          โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic) เท้าปุก / อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
                     โปลิโอ (Poliomyelitis)
           •  มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
           •  ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
นอกเหนือจากนี้ยังมี
         •  โรคกระดูกอ่อน  (Osteogenesis Imperfeta)
         •  โรคศีรษะโต (Hydrocephalus)
         •  โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
         •  โรคระบบทางเดินหายใจ
         •  โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
         •  โรคหัวใจ (Cardiac Conditions)
         •  โรคมะเร็ง (Cancer) 
         •  เลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) 
         •  แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb Deficiency)
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
           •  มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
           •  ท่าเดินคล้ายกรรไกร
           •  เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
           •  ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ
           •  มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
           •  หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
           •  หกล้มบ่อย ๆ
           •  หิวและกระหายน้าอย่างเกินกว่าเหตุ 


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
            นำความรู้ที่ได้ไปใช้การในการเรียนต่อหรือต่อยอดความรู้เกี่ยวกับการศึกษาเด็กพิเศษประเภทนี้

การประเมินผล
ประเมินตนเอง  :  เข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์  :  อาจารย์นำภาพมาให้ดูทำให้เห็นภาพของโรคและอาการมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น